Regional News

MKH Oil Palm ชี้แนวโน้มปีงบประมาณปี 68 ได้รับแรงหนุนจากความต้องการน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ที่เพิ่มขึ้น

บริษัท MKH Oil Palm (East Kalimantan) Bhd คาดการณ์ว่าแนวโน้มธุรกิจในปีงบประมาณสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2568 จะยังคงเติบโตอย่างมั่นคง โดยได้รับแรงสนับสนุนจากความต้องการน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในตลาดโลก

นายตัน ศรี อเล็กซ์ เฉิน คู ชิว ประธานกรรมการบริษัท เปิดเผยว่า ความต้องการ CPO ยังคงแข็งแกร่งจากการที่อินโดนีเซียเริ่มใช้ไบโอดีเซล B40 แทน B35 ในปี 2568 ประกอบกับอุปทานน้ำมันและไขมันพืชชนิดอื่นที่มีอยู่อย่างจำกัด และความต้องการตามฤดูกาลที่เพิ่มสูงขึ้นก็เป็นปัจจัยหนุนสำคัญ

ขณะเดียวกัน บริษัทกำลังดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายธุรกิจด้วยการซื้อที่ดินเพิ่มเติม โดยคาดว่าจะมีการประกาศความคืบหน้าในเร็ว ๆ นี้ พร้อมทั้งศึกษาโครงการเลี้ยงปลาในพื้นที่ปลูกปาล์ม เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงาน โครงการดังกล่าวสอดคล้องกับนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)

ผลประกอบการปี 2567 และเงินปันผล

สำหรับไตรมาสที่ 4 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2567 บริษัทมีกำไรสุทธิ 21 ล้านริงกิต และรายได้รวม 90.59 ล้านริงกิต โดยไม่สามารถเปรียบเทียบกับปีก่อนได้ เนื่องจากบริษัทเพิ่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มาเลเซีย (Bursa Malaysia) เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2567

ทั้งนี้ ผลประกอบการทั้งปีงบประมาณ 2567 บริษัทมีกำไรสุทธิ 63.56 ล้านริงกิต จากรายได้รวม 352.22 ล้านริงกิต เพิ่มขึ้นจากกำไรสุทธิ 30.9 ล้านริงกิต และรายได้ 338.16 ล้านริงกิตในปีก่อนหน้า

นอกจากนี้ MKH Oil Palm ยังประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลครั้งที่สองในอัตรา 2 เซ็นต่อหุ้น โดยกำหนดจ่ายในวันที่ 30 ธันวาคม 2567 แก่ผู้ถือหุ้นที่มีรายชื่อตามทะเบียนเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2567

บริษัทคาดว่าแรงสนับสนุนจากความต้องการ CPO ทั่วโลกและนโยบายสนับสนุนจากอินโดนีเซีย จะช่วยเสริมความมั่นคงให้ธุรกิจเติบโตอย่างต่อเนื่องในปีงบประมาณ 2568